การยกของหนัก

          งานแม่บ้าน เป็นงานที่ต้องทำต่อเนื่องเป็นประจำ และ มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บร่างกาย ทำให้มีผลต่อสุขภาพโดยรวมได้ ถ้าคุณแม่บ้านละเลยการดูแลสุขภาพ ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจาก ” การยกของหนัก “ คุณแม่บ้านบางคนยกของหนักเป็นประจำแต่ก็ยังไม่รู้จักวิธียกที่ถูกต้องทำให้มีปัญหาที่หลังตามมา

          โดยเฉพาะ โรคสุดฮิต อย่าง ” หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ” ที่สร้างความปวดทรมานให้กับหลายคนมาแล้ว ด้วยความเป็นห่วงสุขภาพของทุกคนจึงขอหยิบยก เรื่องนี้มา เตือนให้ทุกคนคอยระวัง และ ทราบวิธีการยกของที่ถูกต้อง การยกของหนักผิดวิธีส่งผลเสียต่อหลังได้ถึงขั้นพิการ หรือ ต้องผ่าตัดใหญ่ เพราะ ” คนส่วนใหญ่มักใช้วิธีก้มตัวลงแล้วยกสิ่งของจากพื้น ” ซึ่งวิธีนี้จะส่งผลเสียต่อหลังโดยตรงก่อให้เกิดอาการปวดหลังบริเวณบั้นเอวจนถึงก้นกบเป็นอาการที่เรียกว่าอาการปวดหลังส่วนล่าง ยิ่งสิ่งของมีน้ำหนักมากก็จะยิ่งส่งผลต่อหมอนรองกระดูกสันหลังมาก เพราะ กล้ามเนื้อหลังและเส้นเอ็นจะทำงานหนักมากกว่าปกติ เสี่ยงเกิดโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท หรือ อาจเกิดอุบัติเหตุจากสิ่งของหล่นใส่เนื่องจากการยกของที่มีน้ำหนักมาก หรือ การยกของที่ผิดท่า เรามาเรียนรู้วิธียกของหนักอย่างปลอดภัยกันเถอะ

คุณแม่บ้านทั้งหลายควรทดลองปฏิบัติตาม และ ฝึกหัดให้ชินเป็นนิสัย ดังนี้
1.ประเมินน้ำหนัก และ ขนาดสิ่งของก่อนเสมอว่าสามารถยกเองคนเดียวได้หรือไม่ ?
2.ยืนให้ชิดสิ่งของที่จะยกให้มากที่สุด เท้าข้างหนึ่งไปที่ด้านข้างของสิ่งของ เท้าอีกข้างให้อยู่ด้านหลังของสิ่งของ
3.ย่อเข่า หรือ คุกเข่าลง 1 ข้างแทนการก้มตัว เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นกับหลัง
4.ยกสิ่งของนั้นขึ้นระดับหน้าอกหรือให้ชิดหน้าอกมากที่สุด สิ่งของมีน้ำหนักมากให้ยกขึ้นมาไว้บนขาข้างที่งอเข่า
5.ค่อยๆเหยียดตัวขึ้น โดยใช้กำลังจากกล้ามเนื้อขายันตัวขึ้น ขณะยืนขึ้นควรให้ลำตัวอยู่ในแนวตรงมากที่สุด
6.เมื่อจะวางของก็ให้ย่อขาลงไป แล้วค่อยวาง ไม่ใช่ก้มหลังลงไปวาง
7.ถ้าจำเป็นต้องยกของที่มีน้ำหนักมากอยู่เสมอ คุณแม่บ้านก็ควรหาสายรัดยกของหนักมาติดบ้านไว้ใช้ทุ่นแรง

          ขอแนะนำ ให้คุณแม่บ้านฝึกท่ายกของหนักนี้จนติดเป็นนิสัย และ ขอแนะนำเทคนิคเล็กๆที่ได้ผลต่อสุขภาพหลังของคุณแม่บ้าน ที่จะทำให้คุณแม่บ้านไม่ต้องทนเจ็บปวดหลังจากการทำงานบ้านอีกต่อไปคือ คุณแม่บ้านที่อายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป ให้รับประทานแคลเซียมเสริมความแข็งแรง ของ กระดูกเป็นประจำทุกวัน

           หากท่านใดมีปัญหาปวดหลังและแพทย์วินิจฉัยว่าต้องผ่าตัดหลังแล้ว ขอให้ประวิงเวลาไว้ก่อนสัก 1 สัปดาห์ แล้วทำการบริหารหลังโดยการนอนราบลงบนเตียง สมมุติว่าตนเองเป็นงู พยายามขยับเคลื่อนตัวลงไปทางปลายเตียงโดยใช้แต่กล้ามเนื้อหลัง ไม่ใช้มือ แขน หรือขาช่วยเลย เมื่อส่วนเอวและขาลงไปอยู่ที่พื้นปลายเตียงแล้ว ก็ให้พยายามเลื้อยกลับขึ้นมานอนที่เดิมให้ได้ ทำเพียงวันละ 1 ครั้งเท่านั้น ไม่เกิน 7 วัน ท่านจะมีโอกาสหาย ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดอีกต่อไป