การใช้เครื่องซักผ้า อุปกรณ์จำเป็นชิ้นหนึ่งที่ควรกล่าวถึงสำหรับงานแม่บ้าน คือ เครื่องซักผ้า การใช้เครื่องซักผ้าให้เหมาะกับปริมาณผ้ามีผลอย่างยิ่งต่อ ” การประหยัดค่าน้ำค่าไฟ “
ดังนั้น แม่บ้านควรมีเครื่องซักผ้ามากกว่า 1 เครื่อง สำหรับซักผ้าปกติแยกกับเครื่องที่ความจุน้อยขนาดพอดีสำหรับซักผ้าสกปรกมากแต่มีจำนวนน้อยอย่างพวกผ้าขี้ริ้ว ซึ่งปัจจุบันมีให้คุณแม่บ้านเลือกมากมายหลายแบบหลายขนาด
ทั้งแบบอัตโนมัติ กึ่งอัตโนมัติ ฝาบน ฝาหน้า แยกถัง ไม่แยกถัง โดยทุกเครื่องจะมีคู่มือบอกวิธีใช้พร้อมภาพประกอบ ซึ่งควรจะเก็บใส่ซองแปะติดไว้กับตัวเครื่อง หลักการใช้เครื่อง ก็ง่าย ปกติไม่เกิน 3 ช็อต คือ
- เปิดเบรกเกอร์ให้ไฟเข้า
- เลือกโปรแกรมซัก
- กดเดินเครื่อง
เท่านี้เครื่องก็ทำงานแล้ว จึงจะขอเสริมเฉพาะเทคนิคที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานให้คุณแม่บ้านเป็นที่ทราบกันว่า
- งาน = แรง X ระยะทาง
นอกจากเราจะใช้เครื่องซักผ้าช่วยทุ่นแรงงานของแม่บ้าน เรายังควรใส่ใจกับแรงและระยะทางในงานซัก เพราะว่า การซักผ้าเป็นงานที่ต้องทำทุกวันและใช้แรงมากเพราะมีน้ำหนักน้ำมาเพิ่มน้ำหนักผ้า งานตากกับงานเก็บไปพับไปรีดก็ตามติดทุกครั้ง ดังนั้น เทคนิคช่วยทุ่นแรงที่แม่บ้านควรคำนึงถึงประสิทธิภาพของงานแม่บ้าน คือ
1.จัดให้เครื่องซักผ้าอยู่ใกล้กับจุดตาก
2.หนุนเครื่องซักและตะกร้าผ้าให้สูงระดับพอดี ลดการก้มเงยหอบผ้าหนักแรงเกินจำเป็น
3.แยกผ้าออกเป็นกลุ่มผ้าสกปรก ผ้าสะอาด ผ้าขาว ผ้าสีตก ผ้าบาง ผ้ามีดิ้นดุมถักทอ
4.จัดน้ำยาและอุปกรณ์เช่นแปรงขัดคราบไว้ใกล้จุดใส่ผ้า
5.ศึกษาวิธีใช้น้ำยาทุกตัวให้เข้าใจก่อนเสมอ ใช้และเก็บรักษาตามที่ระบุอย่างมีสติ
6.ล้างเครื่องซักผ้าอย่างน้อยเดือนละครั้งด้วยน้ำส้มสายชูเทียมผสมน้ำ 20 เท่า
7.ใช้เครื่องเสร็จอย่ารีบปิดฝาเครื่อง ทิ้งให้แห้งก่อน ป้องกันการเกิดเชื้อราในถังซักผ้า
8.ใส่ผ้าตามขนาดของเครื่อง เช่น 8Kg. คือ น้ำหนักผ้าแห้ง ถ้าใส่เกินความจุมากไป เครื่องจะพังและทำงานหนัก
9.ถุงตาข่ายช่วยแยกผ้าชิ้นเล็ก ๆ กับผ้าชิ้นใหญ่ได้
10.เครื่องซักผ้าบางรุ่นอาจมีโปรแกรมฆ่าเชื้อด้วยการอบไอน้ำให้แม่บ้านเลือกใช้ได้เป็นพิเศษ
เมื่อคุณแม่บ้านรู้หลักการใช้เครื่องซักผ้าประกอบกับเทคนิคช่วยทุ่นแรงงานซักแล้ว ก็จะรู้สึกว่าซักผ้าไม่ยากเลย พร้อมหรือยัง แยกผ้า เปิดไฟ ใส่ถัง ปิดฝา ใส่น้ำยา ตั้งโปรแกรม กดOn นั่งเล่นไป เดี๋ยวเครื่องก็เรียกให้มาเอาผ้าไปตากแห้งแล้ว